กรมสรรพากร ทำการขยายเวลาในการยกเว้นภาษี VAT นำเข้า ยา เวชภัณฑ์ และเครื่องมือแพทย์ให้กับผู้นำเข้โดยมีจุดประสงค์ในการบริจาคเพื่อสาธารณกุศล VAT นำเข้า ยา เวชภัณฑ์ – (26 เม.ย. 2565) ครม.อนุมัติหลักการขยายเวลามาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการนำเข้ายา เวชภัณฑ์ และเครื่องมือแพทย์ต้านโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่บริจาคเป็นสาธารณกุศล โดยยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) สำหรับการนำเข้าสินค้าที่ใช้รักษา วินิจฉัย หรือป้องกัน COVID-19
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
เปิดเผยว่า “คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการขยายเวลามาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการนำเข้ายา เวชภัณฑ์ และเครื่องมือแพทย์ต้านโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่บริจาคเป็นสาธารณกุศล โดยยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) สำหรับการนำเข้าสินค้าที่ใช้รักษา วินิจฉัย หรือป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) ได้แก่ ยา เวชภัณฑ์และเครื่องมือแพทย์ต้าน COVID – 19 ที่บริจาคให้แก่สถานพยาบาลของทางราชการ หน่วยงานของรัฐ และองค์การหรือสถานสาธารณกุศล สำหรับการบริจาคตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2565 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2566 ช่วยสนับสนุนและสร้างแรงจูงใจให้ภาคเอกชนมีส่วนร่วมกับภาครัฐในการร่วมมือแก้ไขสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19)”
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า “กระทรวงการคลังโดยกรมสรรพากรตระหนักถึงความสำคัญของการสนับสนุนการแก้ไขสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID – 19 ที่กำลังระบาดอยู่ในขณะนี้ ดังนั้น เพื่อให้การสนับสนุนความช่วยเหลือจากภาคเอกชนเป็นไปอย่างต่อเนื่องในการร่วมมือ ช่วยกันแก้ไขการแพร่ระบาดของ COVID – 19 อย่างมีประสิทธิภาพ กรมสรรพากรจึงได้เสนอคณะรัฐมนตรีเห็นชอบหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ….(การขยายระยะเวลามาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการนำเข้ายา เวชภัณฑ์และเครื่องมือแพทย์ ต้าน COVID – 19 สำหรับบริจาคเป็นสาธารณกุศล) โดยการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการนำเข้าสินค้าที่ใช้รักษา วินิจฉัย หรือป้องกัน COVID – 19 เช่น ยา เวชภัณฑ์ เครื่องมือแพทย์ เพื่อบริจาคให้แก่ สถานพยาบาลของทางราชการ หน่วยงานของรัฐ และองค์การหรือสถานสาธารณกุศลตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังประกาศกำหนด รวมทั้งยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลสำหรับการบริจาคดังกล่าว โดยต้องไม่นำต้นทุนของสินค้ามาหักเป็นรายจ่ายในการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคล ทั้งนี้ สำหรับการบริจาคตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2565 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2566 และที่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขที่อธิบดีกรมสรรพากรประกาศกำหนด”
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวสรุปว่า “การขยายเวลาการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม การนำเข้ายาและเวชภัณฑ์และเครื่องมือแพทย์ต้านโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) เพื่อการบริจาคเป็นสาธารณกุศล จากมาตรการภาษีเดิมที่สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2565 กรมสรรพากรเชื่อว่าจะช่วยสนับสนุนและสร้างแรงจูงใจให้ภาคเอกชนได้มีส่วนร่วมกับภาครัฐในการร่วมมือกันแก้ไขสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) ซึ่งจะส่งผลดีต่อสุขภาพของประชาชน ตลอดจนเศรษฐกิจและสังคมโดยรวมของประเทศ”
ข่าวปลอม! กรุงไทย – ออมสิน จับมือเอกชน เปิด สินเชื่อ ผ่านไลน์ @501atukf
(22 เม.ย. 2565) ตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับการเงินในสื่อสังคมออนไลน์เรื่องกรุงไทยและออมสินร่วมกับบริษัทเอกชน ปล่อย สินเชื่อ เงินกู้ร้อยละ 2 บาท ต่อเดือน ผ่านไลน์ @501atukf ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยธนาคารกรุงไทย และ ธนาคารออมสิน กระทรวงการคลัง พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ
กรณีที่มีการโพสต์ข้อความในสื่อเฟซบุ๊กโดยระบุว่า เงินด่วนโอนไว,ส่งสบาย ปล่อยเงินกู้รายเดือน สนใจสอบถามทักแชทหรือแอดไลน์มาที่ @501atukf ทางธนาคารกรุงไทย และ ธนาคารออมสิน กระทรวงการคลัง ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า ข้อมูลดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับธนาคารทั้ง 2 แห่งแต่อย่างใด และยังแอบอ้างนำตราสัญลักษณ์ของธนาคารไปใช้ด้วย อีกทั้งการแนบลิงก์ชักชวนให้คลิกเข้าไปไม่ทราบได้ว่าเมื่อคลิกเข้าไปแล้วจะมีอะไร ซึ่งการประชาสัมพันธ์และชักชวนดังกล่าวสร้างความเข้าใจผิดให้กับลูกค้าและประชาชน
ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ ทั้งนี้หากพบ SMS อีเมล หรือ LINE ที่มีลิงก์แอบอ้างเป็นธนาคาร หรือพบเหตุผิดปกติ สามารถแจ้งผ่าน Facebook Fanpage Krungthai Care และ Krungthai Contact Center โทร 02-111-1111 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง และ สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารจากธนาคารออมสิน กระทรวงการคลังได้ที่เว็บไซต์ www.gsb.or.th เฟซบุ๊ก GSB society หรือโทร 1115
บทสรุปของเรื่องนี้คือ : มีการแอบอ้างนำตราสัญลักษณ์ของธนาคารทั้ง 2 แห่งไปใช้ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับธนาคารทั้ง 2 แห่งแต่อย่างใด
“ในการร่วมมือกันครั้งนี้ การที่ “กลุ่มเอสซีบี เอกซ์” โดยบริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ จำกัด (SCBS) เข้ามาซื้อหุ้นทั้งหมด 51% ของบริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด ที่จำนวน 17,850 ล้านบาท ที่มูลค่าบริษัททั้งหมด 35,000 ล้านบาท จากบริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด ซึ่งอันนี้เป็นการประทับตรา “ยูนิคอร์น” อีก 1 ตัวให้คนไทยทุก ๆ คนได้ภาคภูมิใจ” นายจิรายุส ผู้บริหาร BITKUB กล่าวในตอนนั้น
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป